กำหนดการเดินทาง |
ผู้ใหญ่ พักห้องละ 2 ท่าน ราคาต่อ 01 ท่าน |
เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี พักกับผู้ใหญ่ 2 ท่าน ไม่มีเตียงเสริม |
พักห้องเดี่ยว เพิ่มท่านละ |
11 – 18 เมษายน 63 (สงกรานต์) | 64,900 | 57,900 | 9,000 |
วันที่ 1 :: | กรุงเทพฯ – มิวนิค |
07.00 น. |
พร้อมกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ หน้าเคาน์เตอร์เช็คอินชั้นทัศนาจร สายการบินลุฟท์ฮันซ่าเยอรมัน แอร์ไลน์ (LH) GATE 4 COUNTER G ผ่านขั้นตอนการเช็คอินโดยเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวกแก่ท่าน |
09.40 น. |
ออกเดินทางสู่ สนามบินกรุงมิวนิค ประเทศเยอรมัน โดยเที่ยวบิน LH – 5447 |
17.15 น. |
ถึงสนามบินสนามบินกรุงมิวนิค ประเทศเยอรมัน ซึ่งถือได้ว่าเป็นประตูของยุโรป เมืองมิวนิคหลากหลายด้วยสถาปัตยกรรมที่แตกต่างเมืองหลวงแห่งแคว้นบาวาเรียแห่งนี้ เคยตกอยู่ภายใต้ราชวงศ์วิทเทลสบาคที่ปกครอง และพัฒนาเมืองให้มีความสำคัญที่สุดทางตอนใต้ของเยอรมนี อีกทั้งยังเป็นแหล่งผลิตเบียร์ ศูนย์กลางการผลิตรถยนต์ BMW หลังผ่านการตรวจลงตราหนังสือเดินทางและพิธีการศุลกากรเรียบร้อยแล้ว บริการรถโค้ชรอรับท่านที่สนามบิน |
ค่ำ |
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร |
วันที่ 2 :: | มิวนิค – ซาลสบวร์ก – ฮัลทัทท์ – เวลส์ |
07.00 น. |
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม |
เช้า |
ออกเดินทางสู่ เมืองซาลส์บวร์ก (SALZBURG) (144 กิโลเมตร/02.15 ชั่วโมง) เมืองที่มีชื่อเสียงจากการใช้สถานที่ต่าง ๆ ของเมืองในการถ่ายทำภาพยนตร์ชื่อก้องโลก “เดอะซาวด์ออฟ มิวสิค” เมืองที่แสนโรแมนติกที่มีทะเลสาบและภูเขาเป็นฉากสวย บ้านเกิดของคีตกวีเอกโมสาร์ต เมืองอนุรักษ์ที่ตั้งอยู่สองฝั่งของแม่น้ำซาลซ่า |
เที่ยง |
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร |
บ่าย |
นำท่านเดินทางสู่ เมืองฮัลล์สตัทท์ (Hallstatt) (75 กิโลเมตร/01.30 ชั่วโมง) เมืองที่ได้ชื่อว่า“เมืองริมทะเลสาบที่สวยที่สุดในโลก” เป็นเมืองท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมมากเป็นอันดับต้นๆ ของประเทศออสเตรีย อยู่ทางฝั่งตะวันตกเฉียงใต้ของทะเลสาบฮัลล์สตัทท์ (Lake Hallstatt) หรือ ฮัลล์สตัทท์เทอร์ ซี (Hallstatter See) สัมผัสกับความเป็นเมืองชนบทเล็กๆ ที่มีอากาศแสนบริสุทธิ์ |
16.30 น. |
ออกเดินทางสู่ที่พักที่ เมืองเวลส์ (WELS) (100 กิโลเมตร/01.30 ชั่วโมง) |
ค่ำ |
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร |
วันที่ 3 :: | เวลส์ – เชสกี้ครุมลอฟ – กรุงปราก |
07.00 น. |
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม |
เช้า |
ออกเดินทางสู่ เมืองเชสกี้ครุมลอฟ (119 กิโลเมตร/01.45 ชั่วโมง) เพชรน้ำงามแห่งโบฮีเมีย เมืองเล็กโรแมนติกดั่งเทพนิยาย จุดเด่นของเมืองนี้คือ มีแม่น้ำวัลตาวาไหลผ่านและล้อมรอบ เมืองในลักษณะงอโค้งเป็นคุ้งไปตามเนินเขา คดเคี้ยวเหมือนรูปตัว S จนทำให้ภูมิทัศน์ของตัวเมือง เหมือนกับหยดน้ำที่กำลังจะร่วงหล่นจากขั้ว ได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโก้ให้เป็นเมืองมรดกโลกในปีค.ศ.1992 มีอาคารเก่าแก่ตั้งแต่ยุคกลางกว่า 300 หลัง ได้รับการอนุรักษ์และขึ้นทะเบียนไว้ให้เป็นสถานที่สำคัญแห่งหนึ่งของโลก |
เที่ยง |
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร |
บ่าย |
ออกเดินทางสู่ กรุงปราก (170 กิโลเมตร/03.00 ชั่วโมง) (Prague) เมืองหลวงของสาธารณรัฐ เช็ก ความโดดเด่นและความเงียบสงบของเมืองเก่าแก่ เมื่อ ค.ศ. 1992 องค์การยูเนสโกได้ ประกาศให้ปรากเป็นมรดกโลก มีแม่น้ำวัลตาวา (Vltava) ไหลผ่านกรุงปรากจึงมีสะพานที่ทอดข้ามแม่น้ำวัลตาวาอยู่หลายแห่งเป็นจุดหมายในการท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในยุโรป |
ค่ำ |
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร |
วันที่ 4 :: | กรุงปราก |
07.00 น. |
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม |
เช้า นำท่านเดินทางสู่ ปราสาทปราก (Prague Castle) สร้างขึ้นในปี ค.ศ.885 เคยเป็นปราสาทของกษัตริย์แห่ง |
นำท่านเดินทางสู่ ปราสาทปราก (Prague Castle) สร้างขึ้นในปี ค.ศ.885 เคยเป็นปราสาทของกษัตริย์แห่งเช็กในอดีต ได้รับการรับรองจากกินเนสส์บุ๊กว่าเป็นปราสาทโบราณที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยมีความยาวประมาณ 570 เมตรและความกว้างประมาณ 130 เมตร เป็นที่เก็บมงกุฎเพชรซึ่งทำขึ้นในสมัยพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 4 กษัตริย์ผู้สร้างความเจริญสูงสุดจนทำให้เมืองปรากรอบๆตัวปราสาทยังมีสถานที่ที่น่าสนใจอีกหลายแห่ง |
เที่ยง |
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร |
บ่าย |
นำท่านแวะถ่ายภาพ สะพานชาร์ลส์ (Charles Bridge) เป็นสะพานเก่าแก่สไตล์โกธิกที่ทอดข้ามแม่น้ำวัลตาวา สะพานได้เชื่อมต่อระหว่างยุโรปตะวันออกและตะวันตกให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน สร้างในปี 1357 ในสมัยพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 4 มาเสร็จสมบูรณ์ในช่วงต้นศตวรรษที่ 15 มีความยาว 520 เมตร กว้าง 10 เมตร มีตอม่อค้ำยัน 16 ตอ จุดเด่นของสะพานนี้ก็คือรูปปั้นโลหะของเหล่านักบุญสไตล์บารอกที่ตั้งอยู่สองข้างสะพานราว 30 องค์ ซึ่งหนึ่งในจำนวนนี้มีรูปปั้นของเซนต์จอห์น เนโปมุก เป็นรูปปั้นที่เก่าแก่ที่สุดบนสะพาน เดิมมีชื่อเรียกว่า สะพานหิน หรือ สะพานแห่งกรุงปราก แต่ได้เปลี่ยนชื่อมาเป็น “สะพานชาร์ลส์” “Charles Bridge” เมื่อปี ค.ศ.1870 เปรียบเสมือนสัญลักษณ์หนึ่งของกรุงปราก |
ค่ำ |
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร |
วันที่ 5 :: | กรุงปราก – บราติสลาวา – บูดาเปสต์ |
07.00 น. |
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม |
เช้า |
ออกเดินทางสู่ เมืองบราติสลาวา (Bratislava) (329 กิโลเมตร/4.45 ชั่วโมง) เป็นเมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศสโลวาเกีย บน 2 ฝั่งของแม่น้ำดานูบ มีอาณาเขตติดกับประเทศออสเตรียและประเทศฮังการี จึงเป็นเมืองหลวงแห่งเดียวในโลกที่มีอาณาเขตติดต่อกับ 2 ประเทศ เมืองนี้และเวียนนายังเป็นเมืองหลวง 2 แห่งที่ตั้งอยู่ใกล้กันมากที่สุดในยุโรป |
เที่ยง |
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร |
บ่าย |
ออกเดินทางต่อสู่ เมืองบูดาเปสต์ (200 กิโลเมตร /03.00 ชั่วโมง) นครหลวงแสนสวยของประเทศฮังการีที่ได้ชื่อว่า “ไข่มุกแห่งแม่น้ำดานูบ” เมืองที่คั่นด้วยแม่น้ำดานูบที่สวยงามแยกเมืองเก่าและเมืองใหม่ออกเป็นสองฝั่ง คือฝั่งเมืองบูดาและฝั่งเมืองเปสต์ เมืองที่มีเสน่ห์อันน่าหลงใหล |
ค่ำ |
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร |
วันที่ 6 :: | บูดาเปสต์ – เวียนนา |
07.00 น. |
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม |
เช้า |
นำท่าน ล่องเรือชมความงามของแม่น้ำดานูบ แม่น้ำยาวที่สุดในสหภาพยุโรปและยาวเป็นอันดับ 2 ของยุโรป มีต้นกำเนิดที่แถบป่าดำในเยอรมนี เกิดจากแม่น้ำเล็กๆ 2 สายคือ Brigach และ Breg ซึ่งไหลมารวมกันเป็นแม่น้ำดานูบที่เมือง Donaueschingen ถือเป็นเม่น้ำสายโรแมนติกสายหนึ่งของยุโรปที่ไหลผ่านเมืองต่างๆ และมีความเชี่ยวของน้ำน้อยมาก กิจกรรมหลักที่มาถึงบูดาเปสต์คือ การสัมผัสกับบรรยากาศแห่งการล่องเรือดานูบ ชมความงดงามของอาคารสถาปัตยกรรมแบบกอธิค เรียงรายสองฝั่งแม่น้ำ มนต์เสน่ห์ที่ไม่เสื่อมคลาย ได้รับการยกย่องว่าเป็นเมืองโรแมนติก บนสายน้ำแห่งหนึ่งของโลก |
เที่ยง |
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร |
บ่าย |
ออกเดินทางสู่ กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย (243 กิโลเมตร / 03.30 ชั่วโมง) เป็นเมืองหลวง และเป็นเมืองใหญ่ที่สุดของประเทศออสเตรีย มีแม่น้ำดานูบไหลผ่าน ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองแสนสะอาด และมีคุณภาพชีวิตที่ดีที่สุดในโลกแห่งปี 2014 เวียนนายังถือว่าเป็นในเมืองสุดแสนโรแมนติก เป็นฮันนีมูนเดสติเนชั่นในฝันของคู่รักนับล้านรอบโลก |
ค่ำ |
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร |
วันที่ 7 :: | เวียนนา – กรุงเทพฯ |
07.00 น. |
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม |
เช้า |
นำท่านเดินทางสู่ พระราชวังเชินบรุนน์ (Schoenbrunn Palace) อัญมณีแสนสวยแห่งกรุงเวียนนา เป็นอาคารในสไตล์โรโคโคที่ใหญ่ที่สุดในประเทศออสเตรีย ในอดีตเป็นที่ประทับในช่วงฤดูร้อนของจักรพรรดิแห่งราชวงศ์ฮับส์บูร์ก โดยจักรพรรดิโยเซฟที่ 1 มีพระราชดำริให้สร้างพระราชวังที่โอ่อ่าหรูหรา โดยใช้พระราชวังแวร์ซายส์ในฝรั่งเศสเป็นต้นแบบ ปัจจุบันได้รับการประกาศให้เป็น มรดกโลก และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงมากในกรุงเวียนนา |
เที่ยง |
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร |
บ่าย |
นำท่านแวะถ่ายภาพ พระราชวังฮอฟบวร์ก (Hofburg Palace) พระราชวังฤดูหนาวที่งดงาม ก่อสร้างขึ้นในปี 1275 ประกอบด้วยปีกอาคารกว่า 18 ส่วนและ ห้องมากกว่า 2,000 ห้องเอกลักษณ์ของพระราชวังแห่งนี้ คือ ยอดโดมสีเขียวที่งดงาม เคยเป็นที่พักอาศัยของราชวงศ์ออสเตรียฮังการีมายาวนานกว่า 600 ปี ปัจจุบันถูกเปลี่ยนเป็นที่พักของประธานาธิบดีของออสเตรีย รวมไปถึงเป็นที่ทำงานของหน่วยงานราชการ |
ค่ำ |
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร |
23.20 น. |
ออกเดินทางสู่ กรุงเทพฯ โดยเที่ยวบินที่ OS – 025 |
วันที่ 8 :: | กรุงเทพฯ |
14.20 น. |
ถึงสนามบิน กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ |
จองทริปนี้
กรุณากรอกข้อมูลด้านล่างให้ครบถ้วนเพื่อความรวดเร็วในการติดต่อกลับไปหาท่าน